just say Hi! [NielOng]
ผู้เข้าชมรวม
1,200
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
Title :: just say Hi!
Couple :: NielOng [ Kang Daniel x Ong Seongwoo]
Author :: minhae
#มฮเนียลอง
คนส่วนใหญ่จะทักทายคนรู้จักด้วยประโยคอะไร เกือบแปดสิบเปอร์เซ็นพนันได้เลยว่าต้องเป็น
สวัสดี เป็นไงบ้าง? ดูดีขึ้นนะ หรืออะไรที่ทำให้อีกฝ่ายอยากสนทนาต่อหรือบางอย่างที่ทำให้ไม่ดูห่างเหินเกินไป
คัง แดเนียล มีความคิดล้านแปดอยู่ในหัวตอนนี้
อะไรที่ดูจะเข้าท่าในการเดินไปทักทายคนรู้จัก เขาอาจจะไม่คิดมากนักถ้ามันเป็นการทักทายเพื่อนร่วมงาน
เพื่อนสมัยเรียน เขาคงเดินเข้าไปทักทายอย่างปกติ ยิ้มแย้มแบบที่เคยเป็น
แต่กับคนที่นั่งห่างออกไปสองโต๊ะตอนนี้ไม่ใช่เลย
สำหรับเขามันดูยากเย็นเหลือเกินที่จะทักทายคนๆนั้น
ไม่มีหนังสือเล่มไหนเขียนไว้ว่าคุณควรเข้าไปทักทายแฟนเก่าของคุณอย่างไร
เพราะไม่ว่าจะวิธีไหนมันก็ดูไม่เข้าท่าไปซะหมด
ต่อให้ความเป็นจริงสถานะของเขากับอีกคนตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งใส่ใจว่าควรทักทายดีมั้ย
แน่นอนว่าแดเนียลมีความคิดที่จะเดินออกนอกร้านเมื่อสิบนาทีก่อน ถ้าไม่ใช่ว่าเขาบังเอิญเงยหน้าขึ้นไปสบตากับอีกคนก่อนจะหลุดยิ้มเล็กๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรีบหลบสายตาทำตัวเลิกลักทำเป็นหยิบเอกสารที่พกติดมือมาขึ้นมาเปิดดู
หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะนั่งอยู่ร้านนั้นต่อ ทำเป็นว่าอยากดื่มอเมริกาโน่ร้อนๆอีกสักแก้วก่อนเริ่มงานในช่วงบ่าย
ปกติแล้วคนเรามักจะมีความคิดในเชิงเข้าข้างตัวเองอยู่เล็กน้อย
แดเนียลเป็นหนึ่งในนั้น
ขณะยกแก้วอเมริกาโน่ร้อนที่พนักงานพึ่งวางมันลงบนโต๊ะเมื่อไม่กี่นาทีก่อนขึ้นดื่มใช้โอกาสนั้นทำเป็นมองผ่านไปทางด้านหลังของคนๆนั้น
แต่อันที่จริงแล้วสายตากลับจับจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือเรือนสีดำที่ต่อให้มองจากนอกร้านเขาก็จำมันได้
คริสต์มาสปีที่แล้ว หลังจากที่นั่งคิดอยู่นานว่าเขาควรมีของขวัญเล็กๆน้อยๆไปให้ใครบางคน
เขาใช้เวลาคิดทั้งวันจนสุดท้ายแล้วก็เลยได้นาฬิกาเรือนหนึ่งจากร้านที่อยู่ทางผ่านที่จะกลับคอนโด
เขาไม่รู้หรอกว่าเขาควรเลือกนาฬิกาแบบไหน หรือรุ่นไหน ยี่ห้อไหนถึงจะดี
เขารู้แค่ว่าเรือนนี้มันสะดุดตาเขาที่สุดและในความคิดเขา อง ซองอู
คนนั้นต้องชอบมันแน่นอน เหมือนเรื่องตลกที่ซองอูแค่มองนาฬิกาเรือนนั้น
เอ่ยขอบคุณ แล้วยื่นกล่องนาฬิกาอีกกล่องหนึ่งมาให้เขา รุ่นเดียวกัน ยี่ก้อ
เดียวกัน สีเดียวกัน
มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ทำให้พวกเขาหัวเราะตลอดคืนคริสต์มาสนั้น
ผ่านมาสองปีแล้วแต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังจำมันได้
แดเนียลยังคงจำนาฬิกาเรือนนั้นได้ดี......ซองอูยังคงใส่นาฬิกาเรือนนั้นอยู่
อเมริกาโน่เย็นชื่ดเมื่อเขาไม่ได้สนใจมันเกือบๆสามสิบนาทีระหว่างที่เอาแต่นั่งมองคนที่นั่งอยู่ห่างออกไปสองโต๊ะกำลังตั้งอกตั้งใจพูดคุยกับเพื่อนร่วมโต๊ะที่เขาไม่เคยเห็นหน้า
ตลอดเวลาที่คบกันเขารู้จักเพื่อนของซองอูแทบจะทุกคนไม่ก็อาจจะทุกคนด้วยซ้ำไป
ไม่มีอะไรให้ต้องหึงหวงเพราะเขามั่นใจว่ายังไงเขาก็ดีกว่าคนพวกนั้นอยู่แล้ว
แต่แน่นอนว่าซองอูคนนั้นเป็นคนมีเสน่ห์ พูดกันตามตรงไม่ใช่แค่กับผู้หญิง
แต่พวกผู้ชายก็ให้ความสนใจอยู่มากพอตัว
ต่อให้ไม่แสดงออกบ่อยนักว่าหวงแต่ลึกๆแล้วเขาก็หวงอีกคนอยู่ไม่น้อย หลังจากเลิกรากันหนึ่งปีเต็ม
มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ซองอูจะมีเพื่อนใหม่มากมายที่เขาไม่รู้จัก เพราะคนที่อัธยาศัยดีแบบนั้นใครๆคงอยากจะเข้าหา พอได้มาเห็นรอยยิ้มที่ปรากฏเขี้ยวเล็กๆนั่นแล้วก็รู้สึกหวงอยู่เล็กๆ
อิจฉาคนที่ได้นั่งมองเขี้ยวนั้นใกล้ๆ
“คุณลูกค้าจะรับอะไรเพิ่มมั้ยคะ?”
เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นดึงสติของแดเนียลออกมาจากภวังค์
เขาหันมองพนักงานสาวที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆก่อนจะเลิกคิ้วเชิงสงสัย ก่อนจะมองไปที่บนโต๊ะที่มีแก้วกาแฟวางอยู่สองแก้ว
แก้วหนึ่งหมดไปแล้วส่วนอีกแก้วก็ดูท่าว่าจะเย็นชื่ดจนเสียรสชาติไปหมดแล้ว เขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปฏิเสธเธอไปแล้วลอบถอนหายใจเบาๆ
เมื่อหันไปมองโต๊ะของคนที่กำลังทำท่าว่าจะลุกออกจากร้าน
เขาควรทักทายดีมั้ย
ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เจออีกเลย หรือจะเป็นแค่ส่งยิ้มให้แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แดเนียลอาจจะดูเหมือนเป็นคนเสียสติไปแล้วตอนนี้
เขามองแก้วกาแฟตรงหน้าสลับกับมองซองอูที่กำลังเก็บเอกสารบนโต๊ะ คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน
หัวใจของเขาเต้นรัว ตื่นเต้นราวกับว่ากำลังจะทำสิ่งที่สำคัญมากๆในชีวิต
อันที่จริงเรื่องแบบนี้เขาคิดว่ามันก็สำคัญอยู่เหมือนกัน ในขณะที่กำลังคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้ดี
ในขณะที่ความคิดยังคงวุ่นวาย ประมวลผลลัพธ์ไม่ได้ เขาก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่ข้างตัว
จนกระทั่งเงยหน้าหันไปมอง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองหยุดหายใจไปแล้ว
อง ซองอู ยืนอยู่ตรงนี้ ข้างๆตัวเขา
ยิ้มและพูดอะไรมากมายที่ตอนนี้เขาฟังไม่รู้เรื่องเพราะโสตประสาทเขามันเหมือนพังไฟหมดแล้ว
เขาเห็นเพียงแค่ใบหน้าของอีกคน เขี้ยวเล็กๆที่ปรากฏขึ้นยามยิ้ม
จุดเล็กๆสามจุดบนแก้มนั่น และกลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดิมที่เขาคุ่นเคย
“แดเนียล?.....คังแดเนียล เฮ้! นี่นายฟังกันอยู่หรือเปล่าเนี่ย?”
ซองอูโบกไม้โบกมือไปมาหลังจากสังเกตว่าคนที่นั่งอยู่เอาแต่เหม่อลอยตอนที่ตัวเองพูด
“ห๊ะ? อ่ะ.....มะ..เมื่อกี้พี่ว่าไงนะ?”แดเนียลยิ้มอย่างเขินอายขณะยกมือขึ้นมาเกาท้ายทอยตัวเองเบาๆแก้เขิน
“อ่อ....นายสบายดีหรือเปล่า?”
“ครับก็ดี แล้วพี่ละ
ไปอยู่ที่นั่นทำงานหนักมั้ย?”เขาเอ่ยถามขณะที่อีกคนกำลังนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆตัว
เขาอยากจะตบปากตัวเองหลังจากนึกขึ้นได้ว่ามันคงเป็นคำถามที่ไม่น่าถามออกไปในการทักทายครั้งแรก
หนึ่งปีก่อนเหตุผลในการเลิกกัน ซองอูได้เลื่อนตำแหน่งและต้องย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศ
อันที่จริงแล้วพวกเขาไม่ได้ตั้งใจว่ามันจะเป็นการเลิกลากัน แดเนียลเคยมั่นใจว่ารักระยะไกลนี่มันไม่ได้น่ากลัวอะไรนัก
เขาสามารถโทรหาอีกคนได้เมื่อคิดถึงหรือไม่ก็บินไปหา
หรือทำอะไรก็แล้วแต่ให้ความรักของพวกเขายังเหมือนเดิม แต่เหมือนเขาคิดผิดทุกอย่าง
เรื่องเวลาเป็นปัญหาสำคัญที่สุด พวกเขาไม่เคยว่าตรงกันเลย
ความห่างเหินเลยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
จนกลายเป็นว่าในเวลาไม่กี่เดือนพวกเขาก็ไม่ได้คุยกันแล้ว
เช้าวันหนึ่งในเดือนเมษายน แดเนียลจำมันได้ดีเขาได้รับข้อความจากชื่อที่คุ้นเคย
มันทำให้เขารู้สึกปวดหัวใจอยู่นิดหน่อย
เพราะแอบหวังเล็กว่ามันคงเป็นข้อความทั่วๆไป อย่าง คิดถึง.... เป็นไงบ้าง....
หรือไม่ก็เรื่องที่อีกคนส่งมาบ่นๆเรื่องสภาพอากาศของที่นั่น แต่มันผิดไปหมด
ข้อความที่เขาได้รับจากอีกคนเป็นประโยคบอกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะบอกเลิก “ช่วงนี้ไม่ได้คุยกันเลยนะ
นายคงเหงาแย่.....นายคงรู้สึกไม่ดีมากๆที่เราเป็นแบบนี้
แต่ว่ายังไงก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว
ฉันไม่อยากให้นายเศร้าหรือเสียใจหรือคบกันอย่างไม่สบายใจ เพราะอย่างนั้นตอนนี้ถ้านายอยากจะมีคนใหม่มันก็ไม่เป็นไรหรอกนะ
ฉันสบายดี.....ส่วนนายก็ไปทำตัวให้มีความสุขเถอะนะ”
มันเป็นข้อความสุดท้ายที่พวกเขาติดต่อกัน
เวลาผ่านไปหนึ่งปี แดเนียลไม่ได้ติดต่อซองอูเลย
และอีกคนก็ไม่ได้มีวี่แววว่าจะติดต่อหาเขาสักนิด มันเกือบจะลืมไปแล้ว.....แต่ก็แค่เกือบเท่านั้นแหละ
“เหมือนโดนจ้างไปใช้แรงงาน”ซองอูตอบก่อนจะหัวเราะออกมา
“ไม่คิดว่าจะเจอนายที่นี่”
“ผมก็ไม่คิดว่าจะเจอพี่ที่นี่เหมือนกัน....ไม่คิดว่าพี่กลับมาแล้ว”
“อืม...ก็คงได้เจอบ่อยๆแล้วมั้ง
ตอนนี้กลับมาทำงานที่บริษัทแล้ว แถมย้ายมาทำตึกข้างๆกับที่ทำงานนายด้วย”พูดจบซองอูก็หัวเราะออกมาเหมือนคนไม่คิดอะไร
ต่างจากอีกคนที่เหมือนมีคำถามและความรู้สึกนึกคิดล้านแปดอยู่ในหัว
แดเนียลเหมือนหลุดเข้าไปในความคิดตัวเองอีกครั้งก่อนจะสะดุ้งเมื่อซองอูจับแขนเขาแล้วเขย่าเบาๆ
“นายโอเคหรือเปล่า? ถ้าไม่สบายใจที่เจอกันก็บอกได้นะ....ขอโทษจริงๆ
เห็นนั่งมองตั้งนานแต่ไม่ยอมเข้ามาทักสักทีนึกว่าอยากคุยกันซะอีก”
แดเนียลกระพริบตาปริบๆก่อนจะคว้ามืออีกคนไว้
“เปล่านะ....ผมอยากคุยกับพี่ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง.....ก็เราเลิกกันแล้ว
แค่กำลังคิดว่าทำยังไงให้มันดูเข้าท่าที่พี่จะไม่ว่าผม....แต่พี่ดูเหมือนไม่รู้สึกอะไรที่เราคุยกันแบบนี้
ก็เลย...”
คนฟังหลุดยิ้มออกมา นั่นมันทำให้แดเนียลยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก
ซองอูไม่รู้สึกอะไรแถมยังทำเหมือนเรื่องที่เขากังวลอยู่เป็นเรื่องตลกไปซะอีก
“ให้ตายสินายนี่
ฉันดูเป็นคนเรื่องมากเลยหรือไงในสายตานาย แค่เดินเข้ามาทักมันยากตรงไหน”ซองอูยิ้ม “แล้ว...ตอนนี้นายมีแฟนใหม่หรือยัง?”
แดเนียลเกือบสำลักอเมริกาโน่ไร้รสชาตินั่นหลังจากได้ยินคำถามจากปากอีกคน
เขาค่อยๆวางแล้วลงก่อนจะเลิกคิ้วหันไปหาอีกคน “ก็พี่บอกผมว่าถ้าอยากมีคนใหม่ก็ไม่เป็นไร”
“อ่า....”ซองอูพยักหน้าเล็กๆหลังจากได้ฟังคำตอบ
อันที่จริงก็เตรียมใจสำหรับคำตอบที่จะได้ยินไว้แล้วนิดหน่อย
แต่พอฟังจริงๆก็รู้สึกจุกนิดๆ
“แต่ผมไม่เชื่อที่พี่บอก......เพราะงั้นตอนนี้ก็ยังโสด”แดเนียลยิ้ม
เขาไม่รู้หรอกว่าไอ้รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซองอูตอนนี้มันหมายความว่าอย่างไร
แต่เขารู้สึกว่าเขาคิดถูกที่ยอมนั่งอยู่ในร้านนี้ตั้งนาน ยอมนั่งสั่งเครื่องดื่มมาเพิ่มทั้งที่ท้องเขาแทบจะรับไม่ไหว
ยอมเข้างานสาย ยอมทำตัวเด๋อๆต่อหน้าคนเป็นสิบในร้านที่ตอนที่เอาแต่นั่งมองอีกฝ่าย
มันอาจจะง่ายกว่านี้ถ้าเขาใจกล้าสักหน่อยที่จะเดินเข้าไปทักทายอีกคนก่อน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ขอบคุณซองอูคนที่ไม่เคยจะอายอะไรที่เป็นฝ่ายเข้ามาทักทายเข้าก่อน
แถมยังทำให้บรรยากาศที่ควรจะอึดอัดไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด
ไอ้กาแฟที่ไร้รสชาติเมื่อก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าจะมีรสชาติขึ้นมาเล็กน้อยในตอนนี้
ตอนที่เขาได้เห็นเขี้ยวเล็กๆและจุดสามจุดบนแก้มนั้นใกล้ๆ
“ต้องเอาเอกสารไปส่งแล้ว”ซองอูพูดขึ้น
“ยังไงถ้าโชคดีคงได้เจอกันอีกนะ”เขาลุกขึ้นยืนถือเอาเอกสาร
“ช่วงนี้ผมเป็นคนไม่ค่อยมีโชคเท่าไหร่......ถ้าเย็นนี้พี่ว่างไปกินข้าวด้วยกันผมจะถือว่าโชคดีของผมเริ่มกลับมาแล้ว”แดเนียลคว้าข้อมือของอีกคนไว้ก่อนจะเอ่ยบอก
ซองอูหัวเราะออกมาก่อนจะพยักหน้า “สองทุ่มแล้วกัน”
อีกฝ่ายบอกไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากร้านไป
แดเนียลไม่ได้วิ่งตามออกไป
เขามองอีกคนจบลับสายตาก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มให้แก้วเปล่าตรงหน้า
ไม่มีหนังสือเล่มไหนบอกหรอกว่าเราอาจจะมีโอกาสกลับไปหาคนรักเก่าได้ในรูปแบบที่ดีกว่าเดิม
เขาไม่รู้หรอกว่าทฤษฎีพวกนั้นบอกอะไรไว้บ้าง มันอาจจะดีหรือไม่ดีใครจะรู้
เขาอาจจะได้กลับไปคบกับซองอูอีกครั้งหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ถ้าเป็น อง ซองอู
คนนั้นต่อให้ต้องพยายามเป็นสิบยี่สิบครั้ง
เขาก็จะทำ......เพราะสำหรับเขาแล้วถ้าไม่ใช่ซองอู
เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะมีความสุขได้ขนาดนี้หรือเปล่า
--------- Fin------
talk :: แง้งงง ในที่สุดก็ลั่นเขียนเนียลองแล้ว
ฮื่ออออ ช่วงนี้มีความชอบพอกับคู่นี้มากๆ นั้มตาจะไหล
เป็นฟิควูบที่วูบจริงๆค่ะ 555555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ <3
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ swag_mh_ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ swag_mh_
ความคิดเห็น